Thursday, October 6, 2011

คำว่า "ซึ่งกันและกัน","กัน" ภาษาอังกฤษ

คำว่า "กัน" ภาษาอังกฤษ เช่น สู้กัน , กอดกัน , .... อะไรทำนองนี้ ใช้คำว่า "each other"

They are fighting each other.
พวกกำลังเขาสู้กัน

Ultramans and the monsters always fight each other.
เหล่าอุลตร้าแมนกับเหล่าสัตว์ประหลาดต่อสู้กันอยู่เสมอ
= "Ultramans always fight against the monsters." + "The monsters always fight against Ultramans."

Mary and her daughter hug each other.
Mary กับลูกสาวกอดกัน
= "Mary hugs the daughter." + "The daughter hugs Mary."

We repect each other.
พวกเราเคารพ,ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
= "I respect you." + "You respect me."

คำง่ายๆ คำว่า กัน ภาษาอังกฤษนี้ เวลาจะใช้ เวลาจะพูดจริงๆ ถ้าไม่เคยชินกับมัน บางทีนึกไม่ออก .... จะใช้คำว่าอะไรดีน้า .... ก็ each other นี่แหละ

Tuesday, October 4, 2011

ใจดี ภาษาอังกฤษ

ใจดี ภาษาอังกฤษ ที่ตรงที่สุดก็คือคำว่า kind ที่ใกล้เคียงก็ generous = ใจกว้าง เอื้อเฟ้อเผื่อแผ่ และก็ nice = นิสัยดี อัธยาศัยดี น่าคบหา หมายถึงมีน้ำใจด้วย
การใช้ก็ง่ายๆ
เช่น

He is very kind and generous. He is a very nice person.
เขาใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
(ความหมายของประโยคนี้จะถือว่าซ้ำซ้อนก็ได้แต่เป็นการเน้นว่าทั้งใจดีและยังใจกว้างคิดจะหยิบยื่นช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมออีกด้วย และก็สรุปตบท้ายว่าเขาเป็นคนดีที่น่าคบมาก....)

พูดถึงคำว่าใจดี ภาษาอังกฤษไปแล้ว ทีนี้คำตรงข้ามบ้าง ....
เห็นแก่ตัว ก็ selfish อันนี้พื้นๆ อีกคำหนึง
unscrupulous (อันสกรุปปิวลัส) หมายถึง ไม่คำนึงถึงศีลธรรม คือขอให้ตนเองได้ประโยชน์เป็นพอ
cruel ก็แปลว่า โหดร้าย โหดเหี้ยม  หรือคำว่า mean ก็แปลว่าโหดร้าย ป่าเถื่อน ได้เช่นกัน

เช่น

He is an unscrupulous man.
เขาเป็นคนที่ไม่คำนึงถึงศีลธรรม
He is very selfish and cruel.
เขาเห็นแก่ตัวและโหดเหี้ยมมาก

วันนี้ขอฝากเอาไว้แค่นี้ก่อนเท่าที่เห็นบ่อยๆใช้บ่อยๆ จริงๆแล้ว ใจร้าย,ใจดี ภาษาอังกฤษยังมีอีกหลายคำมาก

Sunday, October 2, 2011

ดีใจ ภาษาอังกฤษ มีคำว่าอะไรบ้าง

ดีใจ ภาษาอังกฤษใช้ได้หลายคำ เช่น glad , delight , jubilant

ซึ่งแต่ละคำ ระดับความรุนแรงของอาการดีใจก็จะต่างกันไป
คำว่า "glad" ความหมายจะค่อนข้างกลางๆ ไม่สุดโต่งมาก ใช้ได้กับเหตุการณ์ทั่วๆไป ดีใจพอประมาณ

I'm glad to know that you are happy.
ฉันดีใจที่ได้รู้ว่าเธอมีความสุข

Glad to work with you again.
ดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับคุณอีกครั้ง

หรือมีคนมาเล่าข่าวดีของเขาให้เราฟัง เราก็ดีใจกับเขาด้วย
John: I got a new job.
Tom: Glad to hear it.

คำว่า "delight" อันนี้ดีใจมาก ถึงขึ้นดีใจออกนอกหน้า ก็ใช้คำนี้ได้

เช่น เราไปเจอใครบางคนที่อยากเจอมานานแล้ว

I'm delighted to see you again!
เซียวเล่งนี่ง: "ก้วยยี้ ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบเจ้าอีก นึกว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้พบเจ้าอีกแล้ว"

ประมาณนั้นก็ได้เหมือนกัน

ส่วน jubilant คำนี้มีความหมายว่า ยินดี ปรีดา ร่าเริง ส่วนใหญ่จะใช้เป็น Ajd. ขยายคำนาม

It's a jubilant journey.
โอ้ว มันช่างเป็นการเดินทางที่แสนหฤหรรษ์

คำนี้มีความหมายได้ทั้งมีความสุข หรือดีใจ

ดีใจ ภาษาอังกฤษที่เห็นใช้กันบ่อยๆ ก็มีอยู่สองสามคำนี้แหละ

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคน ....

I'm delighted that my English is excellent now!
โอ้ว ฉันดีใจ ภาษาอังกฤษของฉันดีเยี่ยมแล้ว

Saturday, October 1, 2011

ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษอย่างไรให้ไดผล

ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษอย่างไรให้ได้ผล เป็นคำถามง่ายๆที่อาจเปลี่ยนชีวิตใครหลายคน เพราะใครๆที่ฝึกภาษาก็อยากจะฟังได้พูดได้เก่งๆได้กันทั้งนั้น แต่ใครล่ะที่จะตั้งคำถามนี้อย่างจริงจัง และค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการฝึกฝน

หลายคนอาจมองว่ามันก็เหมือนๆกันนั่นแหละจะเรียนหรือฝึกด้วยวิธีไหนมันก็ต้องอาศัยเวลาทั้งนั้น สำนักไหนวิธีไหนก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมาย หลายคนก็ฝึกฝนภาษาอังกฤษกันแบบดุ่ยๆไปเรื่อยๆ ตามความคิดของตัวเองว่ายังงี้แหละดี ไปเรียนตามสถาบันบ้าง ฟังเขามาบ้าง หาเอาในเน็ตบ้าง

ถ้าเราหยุดคิดสักนิดจะดีหรือไม่ เพราะการฝึกผิดวิธีแล้วไม่ได้ผล มันอาจทำให้เราถึงกับหมดกำลังใจ ท้อถอย และเลิกล้มเป้าหมายไปเลยก็๋ได้นะ!

หากเปรียบการฝึกภาษาเหมือนการขับรถยนต์ไปถึงเป้าหมาย

1. วิธีการที่ถูกต้องเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ หากเราเราฝึกฝนถูกวิธี หรือใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพ ก็เหมือนกับว่าเรามีเครื่องแรง

2. น้ำมัน หรือ เชื้อเพลิงที่ใช้ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงาน ก็คือกำลังใจ ทัศนคติ ความุ่งมั่นที่จะฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ ไม่เลิกล้มกลางคันนั่นเอง

หากมีแต่เครื่องยนต์ ไม่มีน้ำมัน รถก็วื่งไม่ได้ หากมีแต่น้ำมัน แต่เครื่องยนต์เสีย รถก็วิ่งไม่ได้เช่นกัน
ดังนั้้นต้องมีทั้งวิธีการที่มีประสิทธิภาพและกำลังใจที่จะฝึกฝน ภาษาอังกฤษของเราจึงจะพัฒนาได้

เคยสังเกตุไหมว่าทำไมเราฟังรู้เรื่อง แต่พอจะให้พูดสิ่งที่ได้ฟังมา กลับพูดไม่ได้ ขนาดเขาเพิ่งพูดจบไปเมื่อกี้นี้เอง เราก็ลืมซะแล้ว แต่ฟังรู้เรื่องนะ แต่ถ้าจะให้พูดทวนประโยคนั้น อาจจะต้องตั้งสตินึกทบทวน ก่อนจะเค้นประโยคนั้นออกมาอย่างตะกุกตะกัก

และเคยไหมได้ยินคำเดิม ได้อ่านคำๆเดิม เคยเปิดดิกแปลคำๆนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่พอมาเจออีก ก็รู้สึกคุ้นๆ เคยเห็นแล้วนี่หว่าคำนี้ แต่ .... จำไม่ได้อีกแล้ว ทำไมน้าถึงเป็นยังงี้

อย่างที่เคยบอก หนทางหมื่นลี้เรืิ่มต้นด้วยก้าวแรก ถ้าเราไม่เจาะเข้าไปที่ปัญหาเล็กๆพวกนี้ เราก็จะก้าวต่อไปไม่ถึงไหน

เคล็ดลับที่จะแก้ปัญหาพวกนี้ก็คือ "ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม" ริจะฝึกภาษา "ยิ่งช้ายิ่งเป็นเร็ว"
อย่ามองข้ามอะไรเล็กๆน้อยๆ คิดว่ารู้อันนี้แล้วก็ผ่านไป

ถ้าจะฝึกสนทนาภาษาอังกฤษให้ได้ผล ต้องหา mp3 หรือ vdo ที่เป็นเรื่องอะไรสักอย่าง ที่เราประทับใจ สนใจ และสามารถจะฟังมันซ้ำหลายๆรอบได้ และที่สำคัญมีซับไตเติ้ล มาใช้ในการฝึก

ผลการวิจัยระบุไว้ว่า เราจะต้องได้ยินศัพท์คำหนึ่งไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งเราถึงจะจำศัพท์คำนั้นได้ตลอดกาลไม่มีวันลืม ถ้าเราไม่อยากลืม เราก็ต้องฟังซ้ำหลายๆรอบแค่นั้นเอง ถ้าเราเรียนรู้ศัพท์เยอะแยะแต่พอผ่านไปเดือนหนึ่งเราลืมหมด มันจะมีประโยชน์อะไร

พอฟังซ้ำหลายๆครั้งเข้า แน่นอน ถ้าเรื่องราวมันไม่ยาวจนเกินไป เมื่อเราฟังเข้าใจทุกเม็ด ทุกประโยค ทุกอณู ทุกถ้อยคำแล้ว สุดท้ายเราจะเริ่มพูดตามได้ และในที่สุด เมื่อฟังจนเบื่อไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้ว เราจะเริ่มเล่าเรื่องนั้นออกมาด้วยตัวเองได้เลย และประโยคที่เราฟังจนเบื่อจนจะอ้วกแล้วนั้น เราก็จะเริ่มประยุกต์ใช้รูปประโยคนั้นๆในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างเป็นอัตโนมัติ หลุดออกมาจากปากได้โดยไม่ต้องมานั่งคิดตกแต่งประโยคตะกุกตะกักอีกต่อไป

ง่ายดีไหมล่ะ ^^" ลองดูละกัน ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษด้วยการฟังแบบนี้แหละ ลองมาแล้วได้ผล